สถานการณ์ของเหล่าขุนพล "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม เอฟซี ดูท่าจะไม่ค่อยสู้ดีนักกับผลงานอันย่ำแย่ในระยะหลัง นับจากเกมที่เปิดรังเอาชนะอินทรีเพื่อนตำรวจ 2-1 เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 56 ให้หลังจากนั้นสมุทรสงคราม เอฟซี ก็พบกับความพ่ายแพ้รวด 4 เกม ประกอบด้วย 26 พ.ค. 56 แพ้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-2 (เยือน), 29 พ.ค. 56 แพ้ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี 1-2 (เยือน), 1 มิ.ย. 56 แพ้ บีอีซี เทโรศาสน 0-2 (เหย้า) และ 8 มิ.ย. 56 แพ้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 0-2 (เยือน)
ล่าสุด เกิดประเด็นฮือฮาระลอกใหญ่เมื่อสยามกีฬาได้รับการเปิดเผยแบบหมดเปลือกจาก "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือคู่บุญแห่งถิ่นปลาทูคะนองที่ได้ยันชัดแล้วว่า ตนเองได้ยื่นใบลาออกให้กับผู้บริหารทีมได้รับทราบไปแล้วหลังเกมที่บุกไปพ่ายอาร์มี่ ยูไนเต็ด 0-2 แต่สุดท้ายบอร์ดบริหารได้ระงับใบลาออกพร้อมสั่งให้น้าฉ่วยอยู่ทำทีมต่อไปไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
"ก่อนเกมกับอาร์มี่ผมได้แจ้งกับผู้บริหารทีมได้รับทราบแล้วว่าหากเกิดแพ้ขึ้นมา ผมก็จะขอลาออกจากการคุมทีมทันที โดยทีแรกบอร์ดบริหารก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่พอเกมแพ้ขึ้นมาจริงๆ ทั้งประธาน สมชาย ตันประเสริฐ รวมถึงประธาน ชัยยะ บุญเจริญ ก็บอกว่าไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น
ผมและทีมงานสตาฟฟ์ทุกคนจะต้องอยู่ทำทีมต่อไป เขาไม่อยากให้ผมหนีปัญหา เขาต้องการให้พวกเราร่วมกันต่อสู้ดิ้นรนในช่วงเลกสองต่อจากนี้ไป จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะหนีปัญหา แต่สิ่งที่ทำคือการแสดงสปิริต หากว่าบอร์ดบริหารต้องการให้ผมทำต่อผมก็พร้อมทันที จากนี้จะต้องระดมเม็ดเงินเพื่อนำมาซื้อตัวผู้เล่นเกรด เอ เพื่อนำเข้ามาเสริมทัพหากต้องการที่จะยกระดับทีมให้แข็งแกร่งขึ้นในช่วงเลกสอง"
พร้อมกันนั้น น้าฉ่วย ยังได้เผยชัดแล้วว่าสิ่งที่ทำคือการลาออกไม่ถือว่าตนเองได้เปรียบแต่อย่างใด เพราะหากลาออกจริงตนเองก็จะไม่ได้รับค่าชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทุกวันนี้ยังไม่ได้เซ็นสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการกับสมุทรสงคราม เอฟซีแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่สัญญาใจที่มีให้กับปลาทูคะนองเท่านั้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
"หลายคนอาจจะคิดว่าการที่ผมตัดสินใจลาออกก็เพราะต้องการได้เงินค่าชดเชยต่างๆ นานา ก็ว่ากันไป แต่ผมอยากจะเรียนให้ทราบว่าผมเองกับสโมสรไม่ได้มีการเซ็นสัญญาว่าจ้างอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร หากสมมุติผมออกไปจริง ผมก็จะไม่ได้อะไรเงินชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น ผมมีแต่เสียๆ กับเสียอยู่แล้ว
ไม่ใช่ว่าผมเอาเปรียบเทียบ และผมก็ไม่ได้หมายความว่าทีมเอาเปรียบผม แต่ที่ผมอยู่ทุกวันนี้เพราะผมรักทีมปลาทูคะนอง ผมผูกพันกับทีมทีมนี้ และผมอยากเห็นทีมนี้ประสบความสำเร็จ"
0 comments:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !