สืบเนื่องจากการเตรียมคลอดพ.ร.บ.กีฬาอาชีพ เพื่อส่งเสริมรวมถึงควบคุมการแข่งขันกีฬาอาชีพให้คงอยู่ในกรอบและไม่เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหนึ่งในกีฬาอาชีพที่ถูกบัญญัติในครั้งนี้มีการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยผสมโรงอยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขั้นตอนของการพิจารณาลงความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีสำหรับการแก้ไขบางมาตราให้เกิดความสมบูรณ์แบบมากที่สุด
เกี่ยวกับเรื่องนี้สยามกีฬาได้รับการเปิดเผยจาก "ทนุเกียรติ จันทร์ชุม" ผู้อำนวยการกองกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าในการเร่งคลอดพ.ร.บ.กีฬาอาชีพ ในคราวนี้ด้วยว่า
"อย่างเร็วที่สุดไม่น่าจะเกิน 3 เดือน พ.ร.บ.กีฬาอาชีพจะสามารถนำมาออกมาใช้ได้อย่างเป็นทางการได้ โดยในส่วนของกีฬาอาชีพซึ่งจะมีกีฬาฟุตบอลรวมอยู่ด้วยนั้นได้ระบุกฎหมายในมาตรา 66 เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินกีฬาอาชีพทั้งฟุตบอล และประเภทอื่นๆ ไว้อย่างชัดเจนว่า
ผู้ใดขอเรียกหรือรับหรือยอมจะรับเพื่อทำให้ผลการแข่งขันไม่โปร่งใส จะถูกจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 2-5 แสนบาท, ผู้ใดขอหรือว่าจ้างผู้ตัดสินให้ทำหน้าที่ไม่เป็นกลางจะถูกจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 2-5 แสนบาท, ผู้ตัดสินใดที่เรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์เพื่อใช้ตัดสินแบบไม่เป็นกลาง จะต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับเงินอีก 3-6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับขึ้นอยู่กับการทำกระทำผิด"
ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการกองกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังได้เผยต่อด้วยว่า "แม้ว่ากีฬาฟุตบอลจะถูกบัญญัติให้เป็นกีฬาอาชีพตามระเบียบวาระของกกท. แต่ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจะต้องส่งเอกสารยืนยันของการแข่งขันแต่ละประเภทด้วยว่าจะให้ประเภทใดเป็นอาชีพ
หรือประเภทใดเป็นสมัครเล่นเพื่อให้สอดคล้องกับการคลอดพ.ร.บ.กีฬาอาชีพ ฟุตบอลลีกรวมถึงฟุตบอลถ้วย 2 รายการอย่างมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ และโตโยต้า ลีก คัพ อาจจะใช่ แต่รายการอื่นๆ ยังคงต้องดูความเหมาะสมด้วยว่าทางสมาคมฟุตบอลฯ ในฐานะผู้จัดการแข่งขันจะใช้รายการใดเป็นประเภทอาชีพต่อไป"
0 comments:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !