Tuesday, January 10, 2012

ไทยลีค:สงขลาส้มหล่นเล่นไทยลีกแทนบุรีรัมย์ เอฟซี







"บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ โอนสิทธิ์ทีมน้องอย่าง บุรีรัมย์ เอฟซี ให้ "วัวชน" สงขลา เอฟซี รับส้มหล่นขึ้นมาเล่น ไทยลีก แทน โดยมีประกาศิตห้ามทำทีมหนีตายเด็ดขาด ซึ่ง นิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงขลาน้อมรับพร้อมลั่นเสริมทัพเต็มที่ ส่วนสิทธิ์ ด.1 ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เบรกความคิด สงขลา ไม่มีสิทธิ์โอนพื้นที่ ด.1 ให้ใคร ชี้ต้องให้สมาคมฯ ตัดสินเท่านั้น 






          "ลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี ทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นมาจาก ดิวิชั่น 1 ซึ่งตามรูปธรรมอยู่ภายใต้การดูแลของ "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ และถูกยกให้เป็นข้อสงสัยเพราะเกรงว่าจะมีนอกมีในกับทีมพี่อย่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่เล่นอยู่ใน ไทยลีก 2012 เหมือนกัน 





         เรื่องนี้ "บิ๊กเน" ได้ตัดปัญหาด้วยการขายสิทธิ์ทีม บุรีรัมย์ เอฟซี ให้กับ "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี ทีมในระดับ ดิวิชั่น 1 ขึ้นมาเล่นใน ไทย พรีเมียร์ลีก แทน  "บิ๊กเน" เปิดเผยว่าตนเองยินดีที่จะโอนสิทธิ์ให้ สงขลา เอฟซี เนื่องจากมองว่า สงขลา มีศักยภาพพร้อมทุกอย่างสำหรับการเล่นลีกสูงสุดของเมืองไทย ทั้งสภาพแวดล้อม, สภาพสนาม, แฟนบอล และการเดินทาง ฯลฯ อีกทั้งยังมองด้วยว่า สงขลา สามารถยกระดับมาตรฐาน ไทยลีก หาก เอเอฟซี เดินทางมาประเมิน ไทยลีก อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อทุกทีมใน ไทยลีก กับการได้เล่นถ้วยใบใหญ่ของเอเชียโดยอัตโนมัติ




        อย่างไรก็ตาม "บิ๊กเน" ได้พูดถึงมูลค่าในการโอนสิทธิ์ให้กับ สงขลา โดยบอกว่าเม็ดเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่บอกได้เพียงว่าน้อยกว่าหุ้นที่ การไฟฟ้าฯ ขายให้กับ บ.สโมสรบุรีรัมย์ฯ ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สงขลา ต้องทำทีมให้แข็งแกร่งด้วยการอยู่เล่นใน ไทยลีก โดยที่ไม่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น ซึ่งนี่คือสัญญาลูกผู้ชายระหว่างตนเองกับประธานสโมสรสงขลาที่ชื่อ นิพนธ์ บุญญามณี




  
          ทั้งนี้จากการโอนสิทธิ์ดังกล่าวทำให้ จ.บุรีรัมย์ จะเหลือทีมฟุตบอลเพียงทีมเดียวเท่านั้น นั่นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยนักเตะ "ลาวาเพลิง" จะถูกโอนย้ายไปอยู่กับทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้งหมด
     
           
นิพนธ์ยิ้มรอตัดสินสิทธิ์ ด.1





        ด้าน นิพนธ์ บุญญมณี ประธานสโมสรสงขลาที่เดินทางมาร่วมงานแถลงครั้งนี้ด้วย เปิดเผยว่าตนเองพร้อมที่จะพา สงขลา เล่นใน ไทยลีก 2012 ด้วยความเป็นมืออาชีพ และขอขอบคุณ เนวิน ชิดชอบ ที่ได้โอนสิทธิ์ บุรีรัมย์ เอฟซี ให้กับชาว จ.สงขลา โดนตนเองจะเริ่มงานทันทีด้วยการเสริมทัพตัวผู้เล่นให้มีความแข็งแกร่งและสู้กับทุกทีมใน ไทยลีก อย่างสนุก





        ทั้งนี้กรณีที่ สงขลา เอฟซี ได้สิทธิ์เล่น ไทยลีก ทั้งๆ ที่ยังมีสิทธิ์ใน ดิวิชั่น 1 นิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงขลา เปิดเผยว่าตนเองจะขายสิทธิ์ ดิวิชั่น 1 ให้กับทีมอื่นๆ แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะต้องการขายสิทธิ์ให้กับทีมที่มีความพร้อมและดีที่สุด ซึ่งตนเองขอเวลาในการตัดสินใจซักพักก่อนแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าจะให้สโมสรใดในภาคใต้ขึ้นมาเล่น ดิวิชั่น 1 แทน 
         
       
ดร.วิชิตเบรกโอนพลการไม่ได้





        ขณะที่ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทย พรีเมียร์ลีก ได้เปิดเผยหลังจากทราบว่า บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ซื้อหุ้นจาก การไฟฟ้าฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทรวมถึงชื่อทีม พร้อมโอนสิทธิ์ทีมน้องอย่าง บุรีรัมย์ เอฟซี ให้ สงขลา เอฟซี ขึ้นมาเล่น ไทยลีก แทน ซึ่ง ดร.วิชิต เปิดเผยว่าหาก บุรีรัมย์ พีอีเอ ทำตามขั้นตอนตามกระบวนกฎหมายแพ่งและพานิชย์ก็ถือว่าทำได้ไม่มีปัญหาและไม่ขัดต่อกฎการแข่งขันแต่อย่างใด พร้อมชมด้วยว่าเป็นการหาทางออกที่ดีที่สุด




        อย่างไรก็ดีสิทธิ์ของ สงขลา เอฟซี ในเวที ดิวิชั่น 1 ที่ทาง นิพนธ์ บุญญามณี เตรียมพิจารณามอบให้กับทีมอื่นๆ ทาง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยอมรับว่าต้องหารือกับสมาคมฟุตบอลฯ และเตรียมนำกฎระเบียบมาพิจารณาก่อน เพราะไม่ชัวร์ว่า สงขลา จะสามารถโอนสิทธิ์ ดิวิชั่น 1 ให้กับใครได้หรือไม่ เนื่องจาก สงขลา เอฟซี ได้ขึ้นไปเล่น ไทยลีก ด้วยการรับโอนสิทธิ์จากสโมสรใน ไทยลีก เพราะฉะนั้นจะไม่มีสิทธิ์ใน ดิวิชั่น 1 ซึ่งจะต้องเป็นเรื่องของสมาคมฟุตบอลฯ ที่จะพิจารณาหาทีมขึ้นมาเล่น ดิวิชั่น 1 แทน โดยที่ สงขลา ไม่มีสิทธิ์ขายสิทธิ์ให้กับใคร








โค้ชน้อย" กุนซือใหญ่ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยชุดชิงแชมป์เอเชีย มั่นใจการเรียกแข้งหน้าใหม่เข้าซ้อมกับทีมชาติทำให้พัฒนาฝีเท้าได้เร็ว ขณะที่ ผช.ผจก.ทีมชาติไทย ชี้หลังรายการชิงแชมป์เอเชีย จบลงจะทำให้นักเตะหน้าเก่ากับหน้าใหม่มีการแข่งขันกันมากขึ้น ส่วนการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ได้ 14 ชาติ เข้าสู่รอบที่ 3 หรือรอบเพลย์ออฟ ที่ใช้การแข่งแบบเหย้า-เยือน นัดแรกแข่ง 25-28 มี.ค. นี้






        ความพร้อมของทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ในการเตรียมทีมลงแข่งชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกโซนอาเซียน ระหว่างวันที่ 21-26 ก.พ. 2555 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยทีมได้เริ่มฝึกซ้อมกันเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยได้เรียกนักเตะมาทำกาคัดเลือกตัว 22 คน และจะตัดตัวให้เหลือ 14 คน  นักเตะที่เรียกมามี 11 คนที่ไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่มาก่อนแต่บางคนเคยมีประสบการณ์ในการเล่นทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และเคยติดชุด "ออลสตาร์ ไทยแลนด์ ฟุตซอลลีก" ลงเล่นสี่เส้าที่เวียดนามมาบ้าง



        จากการเปิดเผยของ "โค้ชน้อย" บงการ พรหมผุย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ว่า "การเลือกผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเยอะเป็นผลดีต่อทีมชาติไทย โดยในรายการระดับอาเซียนไม่จำเป็นต้องใช้ชุดใหญ่ลงเล่นนักเตะหน้าใหม่ๆ ที่ได้เรียกเข้ามากว่าครึ่งทีมนั้นทุกคนต่างก็มีความมุ่งมั่นที่จะติดทีมชาติชุดใหญ่ให้ได้เป็นครั้งแรก เพราะถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าในอาชีพค้าแข้ง 



        จากจุดนี้จะทำให้นักเตะมีการแข่งขันกันสูงและทุกคนจะพยายามอย่างเต็มที่ในการฝึกซ้อมเพื่อที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมให้ได้ในอนาคต รวมทั้งจะพัฒนาตัวเองได้เร็ว แม้การฝึกซ้อมเตรียมทีมจะเริ่มได้ไม่กี่วัน แต่ในรายการชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกโซนอาเซียน จะมีดาวรุ่งอีกมากมายแจ้งเกิดให้ชาวไทยทั่วประเทศได้รู้จัก"



        ขณะที่ "เสี่ยเซฟ" สุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ได้กล่าวว่า "ชาติคู่แข่งทั้งหลายในอาเซียน รวมทั้งออสเตรเลียที่เข้ามาแข่งในโซนอาเซียนด้วยยังห่างชั้นกับทีมชาติไทยมาก ผลการแข่งขันที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี แต่ว่าพวกเขาก็พัฒนาขึ้นมาในระยะหลัง 



        ดังนั้นเราจึงต้องดันดาวรุ่งและผู้เล่นหน้าใหม่ที่โชว์ฟอร์มดีให้มีประสบการณ์ระดับนานาชาติ เพื่อจะได้ทำให้มีการแข่งขันกันมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาระหว่างผู้เล่นเก่าที่ไม่ได้เรียกมาติดและที่ติดในชุดนี้ อีกทั้งบรรดาคู่แข่งทั้งหลายเมื่อรู้ว่าเราไม่ได้ใช้ชุดใหญ่ก็ยิ่งหวังจะล้มไทยให้ได้ แต่การลงเล่นที่บ้านของเราเองเป็นสิ่งที่กระตุ้นนักเตะทุกคนว่าจะแพ้ไม่ได้ในรายการนี้"



        สำหรับฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก โซนอาเซียน มี 8 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน โดยไทยอยู่ในสาย เอ 21 ก.พ. พบ เมียนมาร์ เวลา 11.30 น. ที่ยิมเนเซี่ยม ม.กรุงเทพธนบุรี, 22 ก.พ. พบ ฟิลิปปินส์ เวลา 14.00 น. ที่ยิมเนเซี่ยม ม.กรุงเทพธนบุรี และ 23 ก.พ. พบ อินโดนีเซีย เวลา 14.00 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง 



        ขณะที่สาย บี ประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย, มาเลเซีย, เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งจะคัดเอา 3 ชาติ เข้าไปเล่นชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 12-22 พ.ค. 55 ที่ประเทศยูเออี




      
ยุโรปได้14ชาติเพลย์ออฟฟุตซอลโลก







        ส่วนความเคลื่อนไหวของฟุตซอลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 7 หรือ "ฟีฟ่า ฟุตซอล เวิลด์คัพ 2012" ในโซนยุโรปได้ 14 ชาติ ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟซึ่งเป็นรอบคัดเลือกรอบที่ 3 เพื่อคัดเหลือ 7 ชาติเข้าสู่รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 2-18 พ.ย. 2555 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว



        โดยในรอบคัดเลือก โซนยุโรป รอบที่ 2 ซึ่งมี 7 กลุ่ม ได้ 14 ทีมซึ่งเป็นแชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มมีดังนี้ กลุ่ม 1 สเปน กับ นอร์เวย์, กลุ่ม 2 อิตาลี กับ โรมาเนีย, กลุ่ม 3 เซอร์เบีย กับ สโลวีเนีย, กลุ่ม 4 โปรตุเกส กับ สโลวาเกีย, กลุ่ม 5 ยูเครน กับ อาเซอร์ไบจาน, กลุ่ม 6 เช็ก กับ เบลารุส และ กลุ่ม 7 รัสเซีย กับ ฮังการี 



        ทั้ง 14 ทีมดังกล่าวจะมาแข่งรอบที่ 3 โดยจะจับสลาก ทีมแชมป์แต่ละสายได้เป็นทีมวางเพื่อประกบคู่เตะแบบเหย้า-เยือน นัดแรกแข่งระหว่างวันที่ 25-28 มี.ค. ส่วนนัดที่ 2 จะแข่ง 8-11 เม.ย. และทีมผู้ชนะทั้ง 7 ทีม จะได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจากโซนยุโรปเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายต่อไป



        สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือก รอบที่ 2 มีเพียงแค่ อาเซอร์ไบจาน ที่พลิกความคาดหมายแย่งตั๋วจาก โครเอเชีย คว้ารองแชมป์กลุ่ม 5 ผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 ที่เหลือนั้นต่างก็เป็นไปตามความคาดหมาย 



        โดยทีมเต็ง 1 ของ "ฟีฟ่า ฟุตซอล เวิลด์คัพ 2012" อย่าง สเปน ทีมอันดับ 1 ของโลก ที่เป็นรองแชมป์ในปี 2008 โชว์ฟอร์มได้สมราคาทีมเต็งเมื่อยิงมากที่สุดในรอบที่ 2 ด้วยจำนวน 20 ประตู และเป็นทีมเดียวที่ไม่เสียประตูเลย จากการชนะนอร์เวย์ 8-0 ชนะเบลเยียม 6-0 และชนะบอสเนียฯ 6-0 ขณะที่ อิตาลี กับ รัสเซีย ซึ่งได้ที่ 3 และ 4 ในเวิลด์คัพ 2008 ต่างก็เก็บชัยชนะ 3 นัดรวด คว้าแชมป์กลุ่มมาได้ไม่ยาก



        ซึ่งการแข่งขัน "ฟีฟ่า ฟุตซอล เวิลด์คัพ 2012"จ ะมี 24 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากไทยที่ได้สิทธิ์จากการเป็นเจ้าภาพแล้ว ก็มีเพียงหมู่เกาะโซโลมอน ที่ตีตั๋วมาเล่นแน่นอนแล้วจากการคว้าแชมป์โอเชียเนีย 2010




images by free.in.th




No comments:

Post a Comment